ระบบพูดคุย คุณสามารถพูดคุยกับคนขายหรือผู้สนใจซื้อสินค้าของคุณได้ง่ายๆที่นี่ ให้คุณไม่พลาดทุกการติดต่อ
2 การเล่นกีฬา ( Competitive sports) 4. 3 การออกกำลังกายหรือการฝึกฝนร่างกาย (Exercise training) คือ การเคลื่อนไหวร่างกายที่สร้างขึ้นอย่างเป็นแบบแผน กระทำซ้ำๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเสริมสมรรถภาพอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งหมด เป็นกิจกรรมที่ค่อนข้างหนัก เช่น เดิน จ้ำ วิ่ง/วิ่งเหยาะ ถีบจักรยาน เต้นแอโรบิก ว่ายน้ำ กระโดดเชือก กรรเชียงเรือ เล่นกีฬาประเภทฝึกความอดทน ฯลฯ จากที่กล่าวมาทั้งหมดจะพบว่ารูปแบบกิจกรรมอาจจะซ้ำซ้อนกันทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และบริบทที่กระทำกิจกรรมนั้นๆ ข้อแนะนำในการออกกำลังกายในแต่ละช่วงอายุ 1. อายุ 5-17 ปี สำหรับเด็กและเยาวชนที่มีอายุอยู่ในกลุ่มวัยนี้ กิจกรรมที่เหมาะสมคือ การเล่นกีฬา กิจกรรมนันทนาการ วิชาพละศึกษา หรือการออกกำลังกายที่มีแบบแผน สำหรับครอบครัว โรงเรียน และชุมชน การทำกิจกรรมดังกล่าวช่วยเสริมสร้างให้ระบบการหายใจและการไหลเวียนเลือด กระดูกและกล้ามเนื้อ การเผาผลาญพลังงานในร่างกายดีขึ้น ลดภาวะความเครียด ควรปฏิบัติตาม คำแนะนำดังนี้ ควรออกกำลังกายแบบสะสมในระดับปานกลางอย่างน้อย 60 นาที/วัน สำหรับผู้ที่ออกกำลังกายมากกว่า 60 นาที/วัน จะส่งผลต่อการมีสุขภาพดี การออกกำลังกายในแต่ละวันควรเป็นแบบแอโรบิคอย่างน้อย 3 ครั้ง/สัปดาห์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแข็งแรง ของกล้ามเนื้อและกระดูก 2.
ความสำคัญของการเคลื่อนไหว 1. การร้อง เล่น เต้นรำ เป็นกิจกรรมหนึ่งที่เด็กๆ ชอบ เพราะเป็นกิจกรรมที่ตอบสนองต่อธรรมชาติของเด็กที่ไม่อยู่นิ่งและชอบเคลื่อนไหวร่างกายอยู่ตลอดเวลา 2. ช่วยให้เด็กได้เรียนรู้การเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น เดิน วิ่ง กระโดดโลดเต้น ชูมือ หมุนตัว ส่ายเอว เพื่อที่จะสามารถพัฒนาทักษะในการเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น 3. ช่วยให้สุขภาพร่างกายของเด็กแข็งแรง และพัฒนาอวัยวะทุกส่วนของเด็กให้มีความสัมพันธ์กันอย่างดีในการเคลื่อนไหว เพราะการที่เด็กได้เคลื่อนไหวร่างกายในการเต้นรำตามจังหวะและเสียงดนตรีนั้น เป็นการที่เด็กได้ออกกำลังกายโดยตรง 4. ช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก เพราะการที่เด็กได้คิดค้นท่าทางการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างอิสระผ่านทางเสียงเพลงเช่น การเคลื่อนไหวเล่นบทบาทสมมุติตามเพลง การเคลื่อนไหวร่างกายกับอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งเป็นการฝึกทักษะการคิดสร้างสรรค์และจินตนาการให้แก่เด็กได้ดีมากทีเดียว 5. ช่วยให้เด็กเกิดความมั่นใจในตนเอง เพราะกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะนั้นเป็นกิจกรรมที่ไม่ปิดกั้นในการที่เด็กได้แสดงออกถึงอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด และความเป็นตัวของตัวเองได้อย่างอิสระ ซึ่งส่งผลในการพัฒนาความเป็นเอกลักษณ์และความมั่นใจในตนเองแก่เด็กต่อไป 6.
ทำให้สนุกสนาน เพลิดเพลิน กีฬาบาสเกตบอลเป็นกีฬาที่เล่นสนุก คลายความตึงเครียดในการประกอบภารกิจประจำวันได้ 9. ทำให้มีจิตใจหนักแน่นควบคุมอารมณ์ได้ดี การเล่นบาสเกตบอลย่อมมีการกระทบกระทั่งกันอยู่บ่อยครั้ง จึงเป็นการช่วยฝึกจิตใจให้หนักแน่น และควบคุมอารมณ์โกรธ เพราะเป็นการกระทบกระทั่งกันในเกมการเล่น
ประโยชน์ต่ออารมณ์ โดยธรรมชาติของเด็กจะไม่ชอบอยู่นิ่ง ดังนั้น เวลาที่เขาได้เคลื่อนไหวร่างกายเขาจะรู้สึกสนุกสนาน อารมณ์ดีผ่อนคลาย ไม่เครียด สังเกตได้ว่าทั้งในขณะและหลังจากที่ลูกได้เคลื่อนไหวร่างกายอย่างอิสระหรือได้เคลื่อนไหวด้วยท่าทางต่างๆ ประกอบเสียงเพลงหรือเสียงดนตรีที่มีจังหวะสนุกสนานหรือมีจังหวะอ่อนโยนแล้ว พวกเขาจะมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข สดใสร่าเริง มีรอยยิ้มและมีเสียงหัวเราะ กิจกรรมนี้จึงเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการทางอารมณ์ของลูกอย่างมากเลยทีเดียว และเมื่อลูกอารมณ์ดีมีความสุขแล้วก็จะมีส่วนช่วยกระตุ้นสมองของลูกให้พร้อม เปิดรับในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้เป็นอย่างดีด้วย 3.
957Mb รูปแบบ: PDF